จุดยืนของไทยกับการเมืองโลก ช่วงหลายอาทิตย์ที่ผ่านมาเกิดเรื่องราวมากมายในบริเวณ ทะเลจีนใต้ จีนได้เข้าไปยึดแนวประการังในหมู่เกาะสแปชรี่ ซึ่งต่อมารัฐบาลจีนได้สร้างเกาะเทียมและทำเป็นฐานทัพจีน ในเรื่องข้อพิพาษของหมู่เกาะสแปชรี่มีหลายประเทศในอาเซียนอ้างสิทธิ์เหนือหมู่เกาะสแปชรี่ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย และบรูไน ใช้สิทธิตามกฏหมายระหว่างประเทศ 200 ไมล์ทะเลเหนือหมู่สแปชรี่ ทั้งยังไมี ไต้หวัน และจีน อ้างสิทธิเหนือหมู่เกาะสแปชรี่ในแง่ประวัติศาสตร์
เกาะเทียมจีน
สหรัฐเล็งเห็นถึงความสำคัญของภูมิภาคในแถบทะเลจีนใต้ สิ่งเป็นเส้นทางเดินเรือพาณิชย์ประมาณ 90000-100000 เที่ยวต่อปี คิดเป็นอัตราถึง 1 ใน 3 ของเส้นทางเดินทางทั้งโลก จึงมีความพยายามที่ปรามจีนไม่ให้มีอิทธิพลมากเกินไปในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิค สหรัฐเริ่มยุทธศาตร์โดยการซ้อมรบในทะเลจีนใต้ แต่ความพิเศษคือ ครั้งนี้ใช้เรือบรรทุกเครื่องบินถึงสองลำ คือ เรือบรรทุกเครื่องบิน USS Nimitz และเรือบรรทุกเครื่องบิน USS Ronald Reagan (ประมาณเอ็งจะทำอะไร คิดบ้างน่ะข้าดูอยู่)
เรือรบสหรัฐ
คราวนี้มามองดูตัวเรา ประเทศไทยซึ่งมีภูมิรัฐศาสตร์ที่สำคัญของภูมิภาคอินโด-แปซิฟิค จึงเป็นธรรมดาที่สองมหาอำนาจยักษ์ต้องการให้อยู่ฝ่ายตน ในแง่ความสัมพันธ์ สหรัฐมีอิทธิพลกับไทยมากตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ส่วนจีนมีความสัมพันธ์กับไทย ทั้งในแง่ประวิติศาสตร์ การค้า และเชื้อชาติ ซึ่งดูเหมือนว่าไม่ว่าเราจะเข้าข้างฝ่ายไหนก้อดูเหมือนจะเกิดผลเสียมากกว่าได้กับไทยซึ่งเป็นประเทศเล็กๆ จุดยืนของเราจึงไม่ควรเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมากกว่าไป ซึ่งจะมีผลถึงความสัมพันธ์กับทั้งสองมหาอำนาจนี้
อ่านข่าวเพิ่มเติม ที่นี่
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น